"บิ๊กหมู" สมยศ อรุณมาศ รองนายสนามมวยเวทีช่อง 7 สี เผยไม่ได้เพิกเฉยต่อการทำงานของกรรมการผู้ตัดสินโดยทุกครั้งจะมีการประชุมและสอบถามถึงเหตุและผลของการให้คะแนนด้วยทุกๆครั้ง ยอมรับว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างร้อนแรงในคู่เอกและคู่รอง ซึ่งกรรมการทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ก็มีข้อชี้แจงไม่มีอะไรที่คลุมเครือ ส่วนกรณีที่มีเสียงเรียกร้องว่าให้แฟนมวยเข้าชมมวยได้ตามปกติเพื่อแก้ไขปัญหาตัดสินผิดพลาดคงเป็นเรื่องที่ยาก เพราะเวลานี้เชื้อโควิด-19 ได้แพร่ระบาดหนัก จะทำให้เกิดผลกระทบและสร้างความเสียหายอย่างแรงต่อทางสถานี

     เกิดกระแสดราม่าและถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากสำหรับการตัดสินของกรรมการเวทีมวยช่อง 7 สี ซึ่งมวยคู่เอกระหว่างแบทแมน อ.อัจฉริยะ กับ นักรบ แฟร์เท็กซ์ และมวยคู่รองระหว่าง แจ๊ค นกเขา กม.11 กับ สกุลชัย ป.พวงเดช ที่ชกกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มี.ค.ที่วิกหมอชิต ได้กลายเป็นประเด็นที่ร้อนแรงและกรรมการถูกโจมตีอย่างเสียๆหายๆ โดยแฟนมวยต่างระบุว่าตัดสินค้านสายตาที่ให้แบทแมนและสกุลชัยเป็นผู้ชนะทั้งคู่

     ต่อมาทางด้านผู้สื่อข่าวได้ทำการสอบถามเรื่องนี้ไปยัง "บิ๊กหมู" สมยศ อรุณมาศ รองนายสนามมวยเวทีช่อง 7 สี ที่มีส่วนสำคัญอีกผู้หนึ่งที่คอยทำหน้าที่ดูแลควบคุมการทำงานของกรรมการผู้ตัดสิน ซึ่งทางบิ๊กหมู ได้กล่าวว่าตนเองไม่ได้เพิกเฉยต่อเรื่องนี้ ซึ่งทุกครั้งที่มวยแข่งขันเสร็จสิ้น จะมีการเรียกประชุมกรรมการผู้ตัดสินทุกคน และถ้าหากคู่ไหนมีปัญหาก็จะให้กรรมการที่ปฏิบัติหน้าที่ในคู่นั้นๆ ได้ชี้แจงอธิบายถึงเหตุและผลที่ได้ออกคะแนนให้ชนะ

     "จริงๆ แล้วในช่วง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมาเวทีมวยช่อง 7 สี ไม่มีปัญหาเรื่องตัดสินเลย ก่อนที่จะมาเกิดเหตุอีกรอบก็วันอาทิตย์นี้ซึ่งใครๆ ก็อยากดูคู่แบทแมนว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยเดิมอีกหรือเปล่า และบังเอิญมวยคู่รองก็ดันมีปัญหาที่ตัดสินค้านสายตาอีก ก็เลยเกิดกระแสดราม่า หนักกว่าเดิมหาว่ากรรมการตัดสินไปตามราคาหน้าเสื่อ เข้าข้างไม่มีใจเป็นธรรม ซึ่งผมยืนดูเกมตลอด แต่เรื่องราคาบอกตามตรงผมไม่รู้เรื่อง อย่างคู่ที่ 3 ผมก็สอบถามกรรมการที่ตัดสินมวยคู่นี้ซึ่งทุกคนต่างอธิบายว่า แดง หมายถึง แจ๊ค นกเขา กม.11 เดินเข้าทำจริง แต่เก้งก้าง ทำอะไรน้ำเงินไม่ได้ ตรงกันข้ามเวลาโดน สกุลชัย โต้จะเสียทรงมีอาการตลอดจึงออกคะแนนให้สกุลชัยเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งก็สอดคล้องกับท่าน ผอ.สำนักงานกีฬามวย ที่ผมเชิญเขามานั่งชม ซึ่งท่านก็บอกกับผมว่าที่กรรมการให้น้ำเงินชนะนั้นตัดสินถูกต้องแล้วเช่นเดียวกัย เฮียชุ้น เกียรติเพชร แกก็บอกตามนั้น พอมาคู่เอกผมได้สอบถามกรรมการที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเขาก็อธิบายว่าในยกที่ 2 ที่แบทแมนโดนหมัดหล่นแล้วไม่นับ เป็นเพราะจังหวะที่แบทแมนก้าวถอยหลังแล้วเสียจังหวะ หมัดนั่นโดนจริงแต่มองว่าเป็นการเสียจังหวะมากกว่าซึ่งแบทแมนก้นจ้ำเบ้ายังแสยะยิ้มไม่มีอาการใดๆ เขาจึงไม่นับ แต่ถ้าลองนับสิ ก็ต้องโดนตำหนิอีกเรียกว่าโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง จึงกลายเป็นกระแส ซึ่งครั้งนี้ผมมองดูว่านักรบตั้งใจมากนะ แต่ในยกที่ 3 โดนอ่วมเลย ยก 4 มาผลัดกันทำดูคู่คี่มากในยกสุดท้ายคะแนนที่ออกก็ต่างมุมกัน ซึ่งถ้าหากพูดไปแล้วเกมครั้งที่แล้วนักรบน่าชนะมากกว่า แต่ครั้งนี้แบทแมนชนะก็ถือว่าถูกต้องนี่คือมุมมองผมนะ"

     ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถ้าจะให้มีการแก้ไขเรื่องการตัดสิน ไม่ยากเลยแค่ทางเวทีมวยช่อง 7 สี ปล่อยให้แฟนมวยเข้ามาชมมวยในสนามได้ตามปกติก็จะช่วยกันปกป้องไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้บิ๊กหมูได้กล่าวว่า

     "ตามที่มีเสียงเรียกร้องให้ทางเวทีได้เปิดพื้นที่ให้แฟนมวยเข้ามาชมมวยได้ตามปกติเพื่อจะได้ช่วยกันดูแลสอดส่องการทำงานจะช่วยแก้ปัญหาการตัดสินได้ ตรงนี้ผมขอชี้แจงว่าคงเป็นไปได้ยากครับถ้าหากตราบใดที่การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ยังลุกลามควบคุมไม่ได้อย่าลืมว่าเวทีมวยช่อง 7 สี ตั้งอยู่ในสถานีซึ่งพนักงานบริษัททุกคนจะต้องเข้ามาทำงานในที่แห่งนี้ถ้าหากมีใครคนใดคนหนึ่งติดเชื้อ จะทำให้เกิดผลกระทบความเสียหายอย่างมากถึงขั้นปิดสถานีเลยนะนั่น ซึ่งแฟนมวยต้องเข้าใจด้วยจริงๆ แล้วเราอยากเปิดให้เข้าชมเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้ แต่การแพร่เชื้อโควิด-19 ทำให้เราต้องจัดมวยในระบบปิดให้เฉพาะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาได้เท่านั้น สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการเรามีการควบคุมดูแลอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ถ้าเกิดการทุจริตไม่โปร่งใสเราไม่เลี้ยงไว้แน่ ฉะนั้นขอให้แฟนมวยจงวางใจเราไม่ได้เพิกเฉยในเรื่องนี้อยู่แล้ว ซึ่งกรรมการทุกคนล้วนมีเกียรติมีศักดิ์ศรีเป็นถึงครูบาอาจารย์มีลูกศิษย์ลูกหาทั่วประเทศเขาคงไม่เอาชื่อเสียงมาทำลายอย่างแน่นอน" บิ๊กหมู เผยตอนท้ายสุด

     ด้าน แบทแมน อ.อัจฉริยะ ให้สัมภาษณ์ว่า "เอาจริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของกรรมการครับ ส่วนตัวผมผมมองว่าจังหวะนั้นเป็นจังหวะผมเอียงตัวไปด้านหลังด้วย มองได้หลายมุมครับ แต่สำหรับจังหวะนั้นผมไม่ได้มีอาการอะไรเลย ซึ่งทุกคนที่อยู่หน้าจอทีวีก็น่าจะสังเกตได้ว่าผมลุกขึ้นมาแบบไม่มีอาการอะไร ซึ่งอย่างที่บอก ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกรรมการ และถ้าหากกรรมการนับลูกนั้นตนก็ต้องยอมรับ เพราะมันคือดุลยพินิจของกรรมการ"