"โปรโมเตอร์หมาน้อย อุดร" เตรียมแจ้งความเอาผิดเกรียนคีย์บอร์ดโพสพาดพิงหมิ่นประมาททำให้เสียหาย เหตุที่ "บรรลือฤทธิ์ ศิษย์วัชรชัย" นักชกในต้นสังกัดไม่สมบูณ์เพราะลดนน.เยอะถึง 7 ปอนด์และเพิ่งหายจากป่วยโควิด
นายภุชงค์ กิจขยัน(โปรโมเตอร์หมาน้อย อุดร) โปรโมเตอร์ศึกศิริลักษณ์มวยไทย อาจารย์สุรัตน์ เสียงหล่อ หัวหน้าค่ายมวยเดชรัตน์ และโอ๊ต วัชรชัย เซียนมวยชื่อดัง ผู้สนับสนุน นำ บรรลือฤทธิ์ ศิษย์วัชรชัย ที่ถูก พ.ต.ท.ฉัตรชัย สอนทา ไล่ลงจากเวทียก 3 ในการชกกับ ฟ้าลั่น พักยก77(ป.เพชรไข่แก้ว) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ในศึกมวยดีวิถีไทย+จิตรเมืองนนท์ ที่เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ อตก.3 จ.นนทบุรี เข้าขอความเป็นธรรมนายพลัฎฐ์ สุวรรณาเมธากร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยการกีฬาแห่งประเทศไทย ว่า บรรลือฤทธิ์ ไม่ได้ล้มมวย ส่วนสาเหตุที่ชกไม่มีสภาพเนื่องจากเป็นมวยมาแทน ต้องลดน้ำหนักมากถึง 7 กิโลกรัม อีกทั้งเพิ่งฟื้นจากการป่วยโควิด จึงมาชี้เแจงข้อเท็จจริงและอยากให้ทางสำนักงานกีฬามวยเรียก พ.ต.ท.ฉัตรชัย กรรมการผู้ชี้ขาดบนเวทีมาสอบสวนเพื่อความถูกต้องและยุติธรรมว่าไล่บรรลือฤทธิ์ลงทำไม
วันนี้ (18มีค.2565) ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา โปรโมเตอร์หมาน้อย อุดร(นายภุชงค์ กิจขยัน) โปรโมเตอร์ศึกศิริลักษณ์มวยไทย อาจารย์สุรัตน์ เสียงหล่อ หัวหน้าค่ายมวยเดชรัตน์และโอ๊ต วัชรชัย ผู้สนับสนุน นำ บรรลือฤทธิ์ ศิษย์วัชรชัย ที่ถูก พ.ต.ท.ฉัตรชัย สอนทา ไล่ลงจากเวทียก 3 ในการชกกับ ฟ้าลั่น พักยก77(ป.เพชรไข่แก้ว)เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม ในศึกมวยดีวิถีไทย+จิตรเมืองนนท์ ที่เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ อตก.3 จ.นนทบุรีเข้าขอความเป็นธรรมนายพลัฎฐ์ สุวรรณาเมธากร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยการกีฬาแห่งประเทศไทย ว่า บรรลือฤทธิ์ ไม่ได้ล้มมวย ส่วนสาเหตุที่ชกไม่มีสภาพเนื่องจากเป็นมวยมาแทน ต้องลดน้ำหนักมากถึง 7 กิโลกรัม อีกทั้งเพิ่งฟื้นจากการป่วยโควิด จึงมาชี้เแจงข้อเท็จจริงและอยากให้ทางสำนักงานกีฬามวยเรียก พ.ต.ท.ฉัตรชัย กรรมการผู้ชี้ขาดบนเวทีมาชี้แจง
อ.สุรัตน์ ได้เปิดเผยกับ SMMมวยไทยรายวัน ว่า วันนี้เดินทางเข้ามาเพื่อพบผู้อำนวยการสำนักงานกีฬามวยเพื่อมาชี้แจงเรื่องประเด็นที่บรรลือฤทธิ์นักมวยในต้นสังกัดที่ฝึกสอนถูกกรรมการไล่ลงเวที
"จริงๆแล้วนักมวยตกเป็นจำเลยสังคมที่นักมวยโดนไล่ลง แต่ว่าคนที่เป็นโจรไม่ใช่โจรตัวจริงก็มีนะครับโดนเขาใส่ร้ายน่ะ จะบอกว่าที่นักมวยถูกโดนไล่ลง ไม่ได้ไปรับเงินรับทองใครเขามา ที่ผมกล้าพูดตรงนนี้ เพราะถ้าใครมีหลักฐานเอามา ผมยินดียุบค่ายมวยและลาออกจากวงการมวยวันนี้เลยไม่ต้องพรุ่งนี้ แต่ต้องมีหลักฐานว่ามวยผมล้มนะครับ ส่วนเขาไล่ลงเพราะสภาพนักมวย ต้องถามปัญหาก่อนว่านักมวยมีปัญหาอะไร ที่มาชกเพราะอะไร ผมไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินนักมวยมีเงินเก็บเยอะแยะ. แต่ถ้าถามเรื่องของสังคมหัวหน้าคณะกับโปรโมเตอร์ เราต้องช่วยกัน ถ้าเราไม่ช่วยเรามีน้ำใจไหม เราจะทำค่ายมวยได้ไหม นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะพูด" อาจารย์สุรัตน์ กล่าว
การที่ไปรับใช้ค่ายโน้นค่ายนี้มันไม่สำคัญหรอก สำคัญที่ว่าค่ายไหนเป็นคนของใครนี่ก็พูดตรงๆไม่ต้องเอาเป็นตัวหนังสือหรอก แต่ผมมายืนยันเพราะนักมวยของผมลองไปสืบย้อนหลังดูว่านักมวยของผมเคยโดนไล่ลงไหม
"คุณอย่าเอาวุฒิภาวะการเป็นนายพันนายพลคุณก็เป็นครูเป็นกรรมการคนหนึ่งบนเวทีนี้ไม่ใช่การท้าตีท้าต่อย แต่คุณต้องมีเหตุผลว่าไล่ลงเพราะอะไรแต่ผมรู้แล้วว่าเหตุการณ์นี้ไล่ลงเพราะอะไร รอให้ถึงเวลาแล้วผมจะพูดแต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา" อ.สุรัตน์ กล่าว
"วันนี้ผมกับทีมงานและนักมวยมาเพื่อมาบอกทางผู้อำนวยการสำนักง่นกีฬามวย ว่าเราไม่ผิดไล่นักมวยผมลงทำไม อยากให้เรียกกรรมการผู้ห้ามบนเวทีมาชี้แจงเพราะว่า ผอ.มวย ควบคุมเรื่องมวย ผมไม่ได้ผิด ผมต้องเข้ามาพบก่อน
โปรโมเตอร์"หมาน้อย อุดร"นายภุชงค์ กิจขยัน หัวหน้าค่ายของ บรรลือฤทธิ์ กล่าว มาขอความเป็นธรรมทางผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยองค์กรที่ดูแลรับผิดชอบวงการมวยจุดประสงค์หลักที่มาก็เพื่อ มาชี้แจงเรื่องที่บรรบือฤทธิ์ ถูกไล่ลงและต้องการเชิญให้กรรมการที่ชี้ขาดบนเวทีวันนั้นที่ไล่บรรบือฤทธิ์ลงให้มาชี้แจงกับทางสำนักคณะกรรมการกีฬามวยว่าทำไมไล่ ไล่เพราะอะไร กรรมการรู้สาเหตุหรือไม่
"ต้องดูด้วยว่า เราทำค่ายมวยมาอย่างไร กว่าจะสร้างชื่อเสียงได้มาถึงขนาดนี้ต้องเหน็ดเหนื่อยมาอย่างไร จริงๆกรรมการห้ามมวยบนเวทีจะต้องศึกษามวยแต่ละคู่การทำหน้าที่ของกรรมการต้องดูตั้งแต่การชั่งน้ำหนักต้องเช็คข้อมูลนักมวยไม่ใช่ มาถึงเวทีเที่ยง มวยชกเที่ยงขึ้นห้ามมวย หลับหูหลับตาไล่ ทำแบบนี้ไม่ได้ต้องเช็คกับกรรมการที่ดูแลการชั่งน้ำหนักเช้า กรรมการที่ทำหน้าที่ดูน้ำหนักเช้าก็ไม่ได้ขึ้นเวทีด้วย กรรมการคนที่ขึ้นห้ามไม่ได้ดูอะไร" โปรโมเตอร์หมาน้อย อุดร กล่าว
จริงๆต้องดูว่านักมวยอยู่กับใคร ทำงานกันมาขนาดไหนสร้างลูกหลานนักมวยมาขนาดไหนเด็กๆตั้งแต่มาอยู่กับ อ.สุรัตน์ ไม่เคยมีมลทิน ข้อเท็จจริงก่อนวันมวยจะชกวันอาทิตย์ที่ 13 มี.ค.ทางพี่เทพธรรมะได้โทรศัพท์มาหาเมื่อวันจันทร์ที่ 7 มี.ค.โทรมาบอกว่า ฟ้าลั่น ไม่มีคู่ชก อยากให้ บรรลือฤทธิ์ ไปเป็นคู่ชกไปช่วยรายการ ซึ่งบรรลือฤทธิ์ก็ไม่ได้ชกมานานติดโควิดเพิ่งจะหาย ส่วนทางฟ้าลั่นมวยของเขาก็ไม่ได้ชกมานานเช่นกัน ก็อยากให้นักมวยได้เคลื่อนไหวและอีกอย่างเป็นรายการเล็กๆ ทางพี่เทพธรรมะ บอกว่าเป็นรายการธรรมดาไม่ซีเรียสอะไรอยากให้เด็กได้เคลื่อนไหวเฉยๆ นี่คือเป้าหมายที่ให้เด็กได้ชกแต่พอเกิดปัญหาตรงนี้ กรรมการไม่ได้รับรู้ ซึ่งเด็กมีเวลาฟิตซ้อม 4วันต้องทำน้ำหนักให้ลง 7กิโลกรัมปัญหาที่สำคัญเด็กติดโควิด และเด็กมีเวลาแค่4วัน พอวันที่จะขึ้นชกทางผมก็ได้แจ้งทาง พี่เทพ ธรรมะว่าเด็กลดลงจากค่าย 6โมงเย็นน้ำหนักก็ยังเกิน 2 กก.ผมก็ช่วยกันลดเต็มที่ ผมก็แจ้งเด็กว่าต้องลดให้ได้ แต่เด็กบอกว่าไม่ไหว ผมก็แจ้งทางทีมงานแจ้งพรรคพวกไปเพราะว่าผมทำค่ายมวยมา 20-30ปี ไม่เคยหลอกใคร เวลาเด็กไม่ดี บางครั้งมวยผมก็ชนะ บางทีก็แพ้
ผู้สื่อข่าวถามว่าจุดประสงค์หลักที่ให้เด็กไปช่วยชกโปรโมเตอร์หมาน้อยอุดร กล่าวว่า ผมก็ต้องช่วยเหลือกัน ผมก็เป็นคนหนึ่งในทีมงานพรรคพวกกันผมก็ต้องช่วย บางครั้งนักมวยเขาบ้าง นักมวยป่วยบ้างติดโควิดบ้าง ถ้าเรามีมวยก็จะเอาไปช่วยเพราะพรรคพวกกันต้องช่วยกัน
พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้จริงๆต้องให้กรรมการที่ไล่เด็กลงมาชี้แจงครับ ผมก็พาเด็กมาชี้แจงทางสำนักงานกีฬามวยไปแล้ว
"ผมทำค่ายมวยมาผมไม่เคยร้องเรียนกรรมการไม่เคยให้กรรมการมาชี้แจง แต่เคสนี้เหมือนทำงานไม่มีความรู้ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ต้องออกมาชี้แจงครับ" โปรโมเตอร์หมาน้อย อุดร กล่าวในตอนท้ายว่า เตรียมแจ้งความคนที่โพสตามเพจตามสื่อต่างๆที่พาดพิงทำให้ตนเองเสียหาย อยากให้กลุ่มคนที่กล่าวหาขอให้เลิกโพส ถือว่าผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
"ผมทำมวยมานานทำเพื่อวงการมวยไม่เคยคิดที่จะทำมวยล้ม ใครที่กล่าวหาผมกำลังรวบรวมข้อมูลเข้าแจ้งความเร็วนี้ๆ" โปรโมเตอร์หมาน้อย กล่าว
ทางด้าน บรรลือฤทธิ์ กล่าวว่า ผมเตรียมตัวมาน้อยคุมน้ำหนักไม่ถึงอาทิตย์ น้ำหนักเกิน 6-7กิโลกรัม แต่ก็มุ่งมั่นสุดๆลดเหลือวันสุดท้าย 2 กิโลกรัมก็พยายามลดน้ำหนักและชกให้ดีที่สุด แต่ร่างกายมันซ็อต เพราะลดน้ำหนักเยอะถึง 7 กิโลกรัมอีกทั้งยังต้องขึ้นชกตอนเกือบเที่ยงวันอีกต่างหาก
จริงแล้วใจไม่อยากชกครับเพราะร่างกายไม่ฟื้นโทรศัพท์บอกลูกพี่ว่าผมไม่ไหว แต่ผมก็มาชกด้วยใจ มาช่วยรายการแม้ว่าร่างกายจะไม่ฟื้น ยอมรับว่างงที่ถูกกรรมการไล่ลง เป็นตราบาปผมตลอดชีวิต ขอยืนยันว่าไม่ได้ล้มมวยผมชกมวยมา 10 ปี ต่อยเต็มที่ทุกไฟต์ แพ้ชนะเป็นเรื่องกีฬา
