ทนายสุกฤษฏิ์ แพกรีฑาเวศน์ ได้รายงานผลการประชุม พร้อมเตือนให้ระวังกฏหมายห้ามมวยเด็กชกจะฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง

     หลังจาก สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย รับหนังสือให้เข้าร่วมประชุมจากสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ในวันนี้ 2 ก.พ.64 ณ ห้องประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ ตึก 25 ชั้น กกท. เวลา 09.00 น. สืบเนื่องจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ได้ยกกรณีปัญหากรณีสนามมวยนานาชาติรังสิต จัดให้มีการชกมวยเด็ก จดหมายเชิญประชุมมีเท่านี้พร้อมกับวาระ ทางด้าน ทนายสุกฤษฏิ์ แพรกรีฑาเวศน์ ได้รับมอบหมายจากนายกสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ ให้ไปประชุมแทนท่านวันนี้ โดยมี พันโท รุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ เป็นประทาน พร้อมเชิญผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับเชิญ เช่นกระทรวงการคลัง, กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงแรงงาน, กระทรวงสาธารณสุข, คณะกรรมการกฤษฏีกา เห็นระเบียบวาระการประชุมกรณีของสนามมวยรังสิตนั้นมันไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นเรื่องตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐร้องเรียนไปว่าสนามมวยนานาชาติรังสิต จัดให้มีการชกมวยเด็กต่ำกว่า 10 ปีและจัดให้มีการพนันมวยตู้ โดยอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งกรณีนี้ทางสนามมวยนานาชาติรังสิต ได้ชี้แจงไปแล้วว่ามีการชกมวยเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีจริง แต่อ้างว่า พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ไม่ได้กำหนดอายุขั้นต่ำของเด็กที่ขึ้นชกมวย และในการชกมวยเด็กแต่ละครั้งจะมีการตกลงเรื่องพิกัดน้ำหนักว่าจะต้องเท่ากัน และได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง โดยการชกให้เด็กทดสอบร่างกายเพียง 2 นาที อีกทั้งใช้นวมขนาดใหญ่ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กส่วนกรณีอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐไปเกี่ยวข้องตอนแรกผมเข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของ กกท. แต่กลับเป็นเจ้าหน้าที่ในสังกัดของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งอาจหาลำไพ่ในการจัดมวยเด็กถูกหวยไปอีกคนและต่อมาหน่วยงานต้นสังกัดได้แต่งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยพบว่าไม่ร้ายแรงจึงได้มีคำสั่งลงโทษภาคทัณฑ์เท่านั้น ดูแล้วเรื่องน่าจะจบ แต่ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกลับไปผุดเรื่องนี้ร้องไปที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 เพื่อขอนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อแก้ไขปรับปรุงกฏหมาย ข้อระเบียบ คำสั่ง ให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน โดยยกกรณีของสนามมวยรังสิตเป็นเรื่องตัวอย่าง และไล่บี้ตามเรื่องตลอดเรื่องนี้ทางรองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม สั่งการแทนนายกรัฐมนตรี ได้นำเรื่องมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหน่วยงานหลักและเรียกทุกฝ่ายเข้าร่วมประชุมวันนี้

     ทางด้านทนายสุกฤษฏิ์ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองในฐานะคนมวยก็ร่ายยาวครึ่ง ชม.ว่าทำไมต้องมีมวยเด็ก เพราะมันเป็นมรดกทางศิลปะและวัฒนธรรมไทยมานานแล้วจนโด่งดังไปทั่วโลกอย่าคิดตัดวงจรมวยเด็กต่ำกว่า 15 ปีชกโดยมีเครื่องป้องกัน และห้ามเด็กต่ำกว่า 12 ปีชกแล้วเด็กพวกนี้ที่เคยเป็นนักมวยเขาจะไปประกอบอาชีพอะไร ใครจะดูแลครอบครัวเขา เมื่อไม่มีอาชีพก็หันไปพึ่งยาเสพติดแทนเป็นปัญหาสังคมต่อไป ผมว่าผู้แทนทุกคนเริ่มเข้าใจปัญหาดูจากสีหน้าที่รับฟังท้ายสุดก็ขอความร่วมมือให้ไปนำ พ.ร.บ.มวย ม9(5) ที่ให้บอร์ดมวยสามารถออกระเบียบคำสั่งเพื่อให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.นี้ แทนที่จะไปออกร่างแก้ ก.ม.ทั้ง 2 ฉบับ ที่กำจัดมวยเด็กเถิด

     "ตอนนี้เขาไล่จิกไม่เลิกมือ องค์กรที่พยายามฆ่าตัดตอนมวยเด็ก ดังนั้นคนมวยอย่านิ่งนอนใจ ช่วยกันจัดมวยเด็กชก โดยให้คำนึงถึงเพศอายุ และความปลอดภัยของเด็กทุกวันนี้เขาเก็บหลักฐานไว้ทุกคลิปที่มือบอนไลฟ์สดคู่เด็กชกมหาโหดเก็บเป็นหลักฐานไว้หมดแล้วตอนนี้ทาง ผอ.มวย กำลังทำหนังสือไปถึงผู้เกี่ยวข้องขอความร่วมมือในการจัดมวยเด็กชก ถ้าพวกเราไม่ร่วมกันผมว่า กฏหมายห้ามมวยเด็กชกคืนชีพแน่ครับ" ทนายสุกฤษฏิ์กล่าว