พิษเศรษฐกิจ โควิด-19 เป็นเหตุให้ "ผู้กองรัน สารคาม" ต้องตัดสินใจอพยพนักมวยในค่ายทั้งหมดย้ายไปซบศึกเพชรยินดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้านผู้กองรัน ยอมรับว่าตนเองไม่ได้มีปัญหาอะไรกับทางต้นสังกัดเดิมแต่ยอมรับว่าช่วงนี้ลำบากจริงๆ จึงจำเป็นต้องตัดสินใจแบบนี้เพื่อความอยู่รอด โดยที่ผ่านมาก็ได้อธิบายให้ ชุ้น เกียรติเพชร ได้รับทราบถึงเหตุและผลแล้ว ยืนยันตนเองยังรักเคารพโปรโมเตอร์ศึกเกียรติเพชรเหมือนเดิม ถ้ามีโอกาจจะเข้าไปกราบลาด้วยตัวเอง

     สร้างความตกตะลึงไปทั้งวงการเมื่อจู่ๆ มีข่าวว่า "ผู้กองรัน" ร.ต.อ.นิรันดร์ ยศพล ประธานชมรมมวยสยามภาคอีสาน และเป็นหัวหน้าค่ายดาบรันสารคาม ที่ทำมวยป้อนมวยให้กับกลุ่มบ้านพลเมืองดีเพียงแห่งเดียวเท่านั้นได้ตัดสินใจอพยพนักมวยในค่ายทั้งหมดไปชกศึกเพชรยินดี อันมี "เสี่ยโบ๊ท" ทายาท "เสี่ยเน้า" เป็นผู้รับช่วงดูแลรับผิดชอบ ต่อมาทางด้านผู้สื่อข่าวได้ทำการสอบถามไปยังผู้กองรัน ซึ่งก็ได้รับการเปิดเผยว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง สำหรับสาเหตุที่ตนเองต้องตัดสินใจนำนักมวยที่อยู่ในความดูแลทั้งหมดไปให้กับทางกลุ่มเพชรยินดีเป็นผู้ดูแลจัดการเรื่องคิวชกในครั้งนี้เสมือนเป็นการข้ามห้วยนั้นทางผู้กองรันเผยว่าก็เพื่อความอยู่รอดโดยกล่าวว่าพิษโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบให้กับค่ายตนอย่างแรงโดยตลอดระยะเวลา 3-4 เดือนที่มวยหยุดการแข่งขันได้สร้างความยากลำบากเมื่อมวยไม่มีรายการชกก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่ม โดยตนเองไม่ได้มีเงินเดือนเหมือนเดิมแล้วเพราะได้เกษียณจากตำรวจแล้วจึงมีปัญหาด้านการเงินเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องหาทางออกซึ่งที่ผ่านมารก็ได้โทรศัพท์พูดคุยชี้แจงให้ทางเฮียชุ้น เกียรติเพชร ที่ตนเองเคารพรักได้รับทราบถึงเหตุและผลแล้วโดยเฮียชุ้นก็รับทราบและเข้าใจทุกอย่าง

     "ขอเรียนไปตามความจริงว่า ผมยังรักเคารพเฮียชุ้นเหมือนเดิม ถ้าไม่มีเฮียชุ้นก็จะไม่มีค่ายดาบรันสารคามในวันนี้ ซึ่งทีมงานบ้านพลเมืองดีทุกคนก็ดีไม่ได้มีปัญหาอะไรบุญคุณครั้งนี้ถือว่ายิ่งใหญ่มาก แต่เพราะผมลำบากจริงๆ พิษเศรษฐกิจ โควิด-19 ทำให้มีปัญหาด้านการเงินใจจริงก็เสียดาวไม่อยากทิ้งค่ายนะ ที่ผ่านมาเด็กหลายคนมาขอเลิกมวยเพื่อไปประกอบอาชีพอย่างอื่น ยอมรับว่าผมนอนคิดนั่งคิดมานานหลายคืนในที่สุดผมก็เลยต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง สำหรับเฮียชุ้นก็ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยชี้แจงให้เฮียชุ้นได้รับทราบแล้วว่าผมไม่ไหวจริงๆ จึงจำเป็นต้องทำเช่นนี้เพื่อความอยู่รอดซึ่งผมเองไม่ได้เนรคุณ ยังคงรักเคารพและระลึกถึงบุญคุณของเฮียชุ้นตลอดเวลาถ้าหากมีโอกาสผมจะเข้าไปกราบลากับเฮียชุ้นด้วยตัวเองครับเรียกว่าไปมาลาไหว้ สำหรับแฟนมวยก็ขอขอบคุณที่เป็นห่วงเป็นใย เศรษฐกิจพิษโควิด-19 มันหนักหนาจริงๆ ผมเลยจำเป็นต้องตัดสินใจแบบนี้หวังว่าทุกคนคงจะเข้าใจนะครับ" ผู้กองรัน เผย