จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อันส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย ในส่วนของคนวงการมวยซึ่งถูกวิพากษ์ว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสกันมาก หลังเหตุการณ์รวมตัวชมมวยรายการใหญ่เมื่อต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดมีความเห็นจากบุคคลวงการมวยดังนี้
ล่าสุดเมื่อ 23 มี.ค. อึ่งอุบล คนรวยเพื่อน หนึ่งในเซียนมวยผู้ติดเชื้อไวรัสอยู่ระหว่างรักษาตัวเผย
"สรุปอาการผมวันนี้ดีขึ้นมากครับ กินได้นอนหลับ ร่างกายสดชื่นจิตใจแจ่มใสภรรยาที่บ้านผลออกมาเป็นลบไม่มีเชื้อ ที่บ้านคำความสะอาดใหญ่ทั้งหลังครับ หมอแนะนำให้ใช้เดตตอลน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดทุกที่ที่มือจับ รวมถึงทั้งช้อนถ้วยชามอาหารนะครับ"
ด้าน "เสี่ยโบ๊ท" ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์ใหญ่เพชรยินดี ให้ความเห็น ในส่วนของการดูแลนักมวยในค่ายของตนนั้น ทุกคนอยู่ระหว่างเฝ้าระวังและกักตัวให้อยู่แต่ในค่ายตลอดระยะเวลา 14-20 วัน ตนมีโปรแกรมจัดมวยไทยที่เวทีมาตรฐานทั้ง 2 แห่ง ราชดำเนินและลุมพินีแต่ก็ต้องรับผิดชอบนักมวยในสังกัดทุกคนอาหารการกินต่างๆ อยู่ในการดูแลตลอดเพราะกลัวนักมวยจะไปติดเชื้อหรืออาจจะมีปัญหากับคนภายนอกได้
"ผมกักตัวเด็กๆ นักมวยในค่ายให้เก็บตัวไม่ไปไหน 14 วัน เราบอกเด็กไปแล้วทุกคน ซึ่งความจริงบางคนผมให้เขากลับบ้านต่างจังหวัดไปตั้งแต่ตอนมีเรื่องใหม่ๆ แล้ว และที่ค่ายเองก็ต้องทำความสะอาดฉีดยาฆ่าเชื้อที่ค่ายกันครั้งใหญ่"
"สิ้นเดือนนี้นักมวยก็คงเข้าค่ายเหมือนเดิม แต่เรื่องการจัดมวยคงต้องรอดูสถานการณ์ออกไปอย่างน้อย 1-2 เดือน เพราะตอนนี้คงไม่มีใครกล้าเข้าสนามมวยแน่นอน ส่วนกรณีที่รัฐบาลปล่อยให้คนกลับบ้านต่างจังหวัด ผมมองว่านี่ก็จะเป็นปัญหาใหญ่ กรุงเทพฯ อาจจะเบาบางลง แต่ต่างจังหวัดตอนนี้คนต้องเตรียมรับมือกันขนาดใหญ่แล้ว เพราะเราจะควบคุมได้ยาก แต่อย่างน้อยทุกคนก็ต้องอยู่บ้านกัน ต้องเฝ้าระวังรับผิดชอบตัวเองกันเป็นสำคัญ ใครป่วยก็ต้องไปหาหมอ"
ส่วน "มิตร นคร" สุเมธ ซื่อสัตตบงกช โปรโมเตอร์ศึกวันมิตรชัยเวทีราชดำเนิน เผย "ตามนโยบายของรัฐบาลที่ปล่อยให้ประชาชนเร่งกลับภูมิลำเนาในตอนนี้โดยส่วนตัวผมมองว่าอันตรายนะ เพราะการเดินทางที่แออัด คับคั่ง คนแห่กลับบ้าน เราไม่รู้ว่าใครติดเชื้อไวรัสนี้กันบ้าง และอาจแพร่กระจายได้เร็วขึ้น ลุกลามบานปลายขึ้น ระหว่างเดินทาง"
"แต่การกลับไปอยู่บ้านตามภูมิลำเนาของแต่ละคนนั้น หากเราทุกคนช่วยกันดูแลตัวเอง เฝ้าระมัดระวัง กักตัวเองภายใน 14 วัน ถ้าใครมีอาการแล้วรีบไปพบแพทย์ ใครไม่เป็นอะไรก็อยู่กับบ้านก็จะถือว่าช่วยสังคมได้เป็นอย่างดี"