<iframe src="https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fpermalink.php%3Fstory_fbid%3Dpfbid0RfptxbKX7vfFeYZ7PGaR83LCJfxDFHFU7DUmrR6Cnm8wkr96ZEZ6rNcGX15upm1Yl%26id%3D100011605299114&show_text=true&width=500" width="500" height="250" style="border:none;overflow:hidden" scrolling="no" frameborder="0" allowfullscreen="true" allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share"></iframe>
ภูมิใจไทย ชก ONE ลุมพินี ไฟต์แรกค่าตัว 86,000 บาท ได้แบ่ง 3 หมื่นกว่า ไฟต์ 2 ได้ค่าตัว 120,000 บาท + โบนัส ได้แบ่ง 1.9 แสนบาท ด้าน พีเค.แจงรายละเอียดชัด หลักเกณฑ์การหักส่วนแบ่ง และเกียรติเพชร ยังพร้อมจัด แต่ให้ไปเคลียร์กับหัวหน้าคณะให้เรียบร้อยก่อน
กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที เมื่อ ภูมิใจไทย มท.1 (ปกรณ์พรสุรินทร์) กำปั้นจอมฝีมือวัย 21 ปี จากจังหวัดสุรินทร์ โพสต์ข้อความระบายความในใจผ่านเฟซบุ๊ก Choosak Tidjaidee เนื่องจากไม่มีรายการชกมา 4 เดือนเต็ม สรุปใจความได้ว่า
- นักมวยอึดอัดใจเรื่องไม่มีรายการชก แต่ตัดสินใจไม่ออกมาพูดอะไร กระทั่งได้ยินข่าวด้านลบเกี่ยวกับตัวเอง จึงโพสต์ข้อความชี้แจง
- นักมวยยืนยันว่าไม่ได้ติดผู้หญิงจนไม่อยากชกมวย แต่ถูกสั่งให้เลิกชกมวย แล้วไปหาทำงานโรงงาน
- นักมวยไม่มีรายการชก 5 ยก นับตั้งแต่ถูกพาออกมาจากศึกเก่า ทางค่ายจะให้ชกแต่มวย 3 ยก นักมวยยอมรับว่าไม่ใช่มวยเก่งในกติกานี้ และก็เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ชก 3 ยกทุกเดือน จึงขอชก 5 ยก สลับกับ 3 ยก จะได้มีรายได้ต่อเนื่อง เพราะมีภาระเยอะ
- นักมวยบอกว่า ถ้าชก 3 ยก ต้องซ้อม 2 ค่าย โดนหักค่าตัว 2 ต่อ ค่ายที่เสนอรายการและเก็บตัวฟิตซ้อมก่อนชกหัก 20% เหลือจากที่โดนหัก 20% ต้องแบ่ง 50-50 กับค่ายเก่า
- นักมวยชก ONE ลุมพินี ไฟต์แรก ได้ค่าตัว 86,000 บาท เหลือเงินถึงมือประมาณ 3 หมื่นกว่า ไฟต์ที่ 2 ได้ค่าตัว + โบนัส เป็นเงิน 470,000 บาท หักแล้วเหลือถึงมือ 190,000 แสนบาท
- ถ้าชนะได้โบนัสทุกไฟต์ก็อยากชก แต่ความเป็นจริงไม่เป็นอย่างนั้น เพราะคู่ต่อสู้ก็ตั้งใจมาชกเพื่อหวังชนะเช่นกัน ฉะนั้น ถ้าชกแล้วไม่ได้โบนัส แล้วรอรายการ 3-4 เดือนต่อไฟต์ คงอยู่ไม่ได้
- นักมวยเข้าไปคุยเพื่อขอชก 5 ยก สลับกับ 3 ยก คำตอบก็คือ หัวหน้าคณะไม่อนุญาต จะให้ชก 3 ยกอย่างเดียว 5ยก จะได้ชกก็ต่อเมื่อเป็นรายการมวยการกุศลตามต่างจังหวัดเท่านั้น
- นักมวยเสนอว่า ถ้าให้ชก 3 ยกอย่างเดียว หักส่วนแบ่งน้อยกว่าเดิมได้ไหม คำตอบคือ ไม่ได้
- นักมวยจึงเสนอให้ขายสิทธิ์ไปอยู่ที่อื่น เพราะอยากชกบ่อย ๆ คำตอบคือ ทางค่ายมีศักดิ์ศรีไม่ขายมวยกิน ถ้านักมวยไม่กลับค่าย ก็ให้ไปหาทำงานโรงงาน นักมวยจึงไม่มีรายการชก
- นักมวยระบุว่า ไม่เคยลืมบุญคุณค่ายที่เลี้ยงดูมาตลอด 8 ปี ไม่เคยคิดจะพูดเรื่องนี้ แต่สถานการณ์บีบบังคับให้ต้องพูดเพื่อปกป้องตัวเอง เพราะมีคนต่อว่านักมวยจำนวนมาก
- นักมวยจึงขอแก้ข่าวเรื่องที่ได้ค่าตัวเยอะแล้วลืมตัว ยังยืนยันเป็นคนเดิมที่กางมุ้งนอนบนเวทีมวยมุมเดิมทุกคืน เจ้าตัวกล่าวว่าเกิดมาจากศูนย์ เป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่พยายามดิ้นรนเพื่อให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่เคยคิดทรยศหักหลังผู้มีพระคุณ
ทางด้าน พงษ์พิชัย เหมวันต์ ผู้จัดการค่าย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม กล่าวว่า นี่เป็นปัญหาระหว่างนักมวยกับค่ายต้นสังกัด ทางค่าย พี.เค. ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียแต่อย่างใด
“น้องต้องไปคุยกับทางหัวหน้าค่ายเขาครับ เพราะทั้งหมด เขาเป็นคนตกลงกับค่ายเก่าครับ”
พงษ์พิชัย หรือ โจ พีเค. อธิบายเพิ่มว่า ก่อนชกต้องพานักกีฬาไปตรวจร่างกาย ตรวจเลือด สแกนสมอง ล้วนเป็นค่าใช้จ่ายที่ทางค่าย พีเค. ออกให้ทั้งสิ้น รวมทั้งต้องพาไปถ่ายรูปที่สตูดิโอ นักมวยมาเก็บตัวที่ค่ายประมาณหนึ่งเดือนครึ่ง รวมกินอยู่พร้อมทั้งของบำรุงก่อนชก ใช้เทรนเนอร์ค่าย ทางค่ายหัก 20% ซึ่งจริง ๆ ได้ไม่ถึง 20%
“ทางค่ายได้ไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำ เพราะว่าเราหักให้เทรนเนอร์ที่ล่อเป้าน้อง 10% ทุกครั้ง โดยน้องไม่ต้องมาจ่ายค่าเทรนเนอร์ครับ ทางค่ายน้องต้องไปอธิบายให้น้องฟังครับ ทางเราชัดเจนแน่นอนอยู่แล้วครับ น้องรู้ครับ และตัวน้องเองรู้ทุกเรื่องครับ ทางค่าย พีเค. ไม่รู้เรื่องแค่ค่าตัวเท่านั้นเองว่า โดนหักกันเท่าไหร่จากค่ายน้องครับ”
ทางด้าน ฐิติวัชร์ ธีระเดชพงศ์ โปรโมเตอร์ต้นสังกัด พร้อมช่วยเหลือ ภูมิใจไทย แต่ตัวนักมวยต้องไปคุยตกลงกับทุกฝ่ายให้ลงตัวก่อน ทางเกียรติเพชรจะไม่เข้าไปแทรกแซง ถ้าทุกอย่างคุยลงตัว ตนยินดีให้ ภูมิใจไทย กลับมาชกในศึกเกียรติเพชรตามเดิมได้ เพราะเรายังมองว่า ภูมิใจไทย เป็นนักมวยฝีมือดีมีอนาคตคนหนึ่ง
อนึ่ง เรื่องเงินรางวัลพิเศษ หรือ โบนัส ที่นักมวยได้รับ ตามมาตรา ๑๕ ระบุว่า
“ทรัพย์สินที่มีผู้มอบให้แก่นักมวยโดยตรงในการแข่งขันกีฬามวย ให้ตกเป็นของนักมวยทั้งหมด ข้อตกลงใด ๆ เพื่อแบ่งปันทรัพย์สินดังกล่าวจากนักมวยให้ตกเป็นโมฆะ”
