"กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี" เน้นความรุนแรงของอาวุธ ตั้งเป้าชนะน็อกคู่แข่งจากแดนปลาดิบ "ฮิโรกิ อากิโมโตะ" จากญี่ปุ่น ในศึก "ONE X" ฉลองครบรอบ 10 ปี ของ วัน แชมเปียนชิพ ที่สิงคโปร์ 26 มี.ค.นี้ ที่สิงคโปร์ เชื่อวางแผนการชกและซ้อมมาดี ไม่ประมาทคู่ต่อสู้ มั่นใจคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวตกลับเมืองไทยได้สำเร็จ
วันที่ 12 มี.ค. 64 ความเคลื่อนไหวการแข่งขัน ONE X ที่สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ประเทศสิงคโปร์ ในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี ของ วัน แชมเปียนชิพ องค์กรศิลปะป้องกันตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งเอเชีย โดยอีกหนึ่งคู่สุดมันในรายการนี้ “กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี” ที่จะมีโปรแกรมป้องกันแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต ครั้งที่สอง กับผู้ท้าชิงแดนซามูไร “ฮิโรกิ อากิโมโตะ” จากญี่ปุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งคู่ที่แฟนมวยทั่วโลกให้ความสนใจ
กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี เปิดเผยว่า "สำหรับการเตรียมตัวป้องกันแชมป์ในรายการนี้ ผมฝึกซ้อมมาแล้ว 2 เดือน ตอนนี้มีความพร้อม 70 เปอร์เซ็นต์ โดยเวลาที่เหลือจะซ้อมได้เต็มร้อยแน่นอน ซึ่งในการฝึกซ้อมแต่ละวัน จะมีการเตะเป้า 8 ยก เตะเป้าผสมเล่นเชิงไปด้วย ต่อยหมัดเป้าอีก 5 ยก การฝึกซ้อมจะเน้น ต่อยหมัด เตะขาเสริม เป็นพิเศษ โดยมี ก้องพิภพ เพชรยินดีอะคาเดมี อดีตนักชกชื่อดัง เป็นเทรนเนอร์ และฝึกซ้อมกับทัพนักมวยสากลอาชีพหลายคน ได้แก่ เพชรโกศล กรีนซึดะ และ แสงอาทิตย์ ลูกทรายกองดิน มาช่วยลงนวม รวมทั้งมีเพชรมรกต และ เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี มาช่วยทวนเชิง เล่นเชิงให้"
"สำหรับการชกไฟต์นี้ เน้นวางแผนการชกให้ดี ไม่ประมาทคู่ต่อสู้ ผมคิดว่าจะใช้ความรุนแรงในการออกอาวุธ ต่อยหมัดเตะขา ซึ่งที่ตอนฝึกซ้อมจะเน้นหนักตรงจุดนี้ น่าจะทำให้เอาชนะน็อกคู่แข่งได้ ผมมีจุดเด่นตรงอาวุธที่ใช้ค่อนข้างหนักและแรง แต่ต้องระวัง เพราะผมชอบประมาทคู่ต่อสู้มากเกินไป จนอาจจะพลาดท่าเสียทีได้ ก็พยายามแก้ไขตัวเองด้วยการไม่ประมาท และมีสมาธิในเกมตอนเวลาชกกับคู่แข่ง"
กัปปิตันกล่าวถึง ฮิโรกิ อากิโมโตะ ว่า ฮิโรกิ เป็นนักชกที่ขยันออกอาวุธบ่อยๆ สไตล์คิกบ็อกซิ่ง เป็นนักชกที่เวลาชกจะเน้นให้ได้แต้ม เน้นอาวุธ แต่อาวุธไม่หนัก เพราะว่าคิกบ็อกซิ่งจะเน้นต่อยอย่างไรให้ได้คะแนนมากกว่า ทำให้ส่วนตัวไม่กังวลอะไรมาก เน้นเก็บอาวุธของเขาให้ดี ไม่ให้เขาออกอาวุธได้มาก ผมไม่ได้รู้สึกว่า กลัวหรือกังวล เนื่องจากมีการเตรียมตัวฝึกซ้อมเต็มที่ มีการแก้ทางคู่แข่งมาอย่างดี และวางเป้าหมายไว้ว่าเราจะชนะน็อกคู่แข่งให้ได้ ผมพยายามจะทำผลงานให้ดีที่สุด และเอาแชมป์กลับเมืองไทยให้ได้เหมือนเดิม"
"สำหรับการซ้อมและการแข่งขันในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยอมรับว่า ทำให้รู้สึกกลัวว่าจะติดเชื้อ จนไม่ได้ไปแข่งขัน ส่วนตัวยังไม่เคยติดเชื้อ แต่ก็ระมัดระวังมาก ส่วนการไปชกในต่างประเทศในช่วงโควิด-19 ได้ไปแข่งที่สิงคโปร์ประเทศเดียว มีการตรวจโควิด-19 ทุกวัน มีการตรวจและมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ส่วนตัวจะระมัดระวังไม่ได้ออกไปไหน อยู่แต่ในโรงแรม วิ่ง ซ้อม กินข้าว และไปสนามแข่งขัน พยายามป้องกันตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัยและล้างมืออย่างเคร่งครัด"
กัปปิตัน ตั้งเป้าผลการแข่งขันครั้งนี้คือ ต้องชนะน็อกให้ได้ นอกจากนี้ยังมองเป้าหมายในอนาคตอยากขยับรุ่นไปชกมวยไทย อยากเป็นแชมป์มวยไทยในอนาคตข้างหน้าให้ได้