เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.64 ที่โรงแรมเอบีน่า เฮาส์ “บิ๊กบางจาก” นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ คนใหม่ หลังหมดวาระลง
โดยเมื่อเข้าสู่วาระการเลือกตั้งนั้นที่ประชุมได้มีการเห็นชอบให้ พล.อ.อ.ระพีพัฒน์ หลาบเลิศบุญ เป็นประธานอนุกรรมการจัดการเลือกตั้ง มีผู้สมัครเลือกตั้ง 2 คนได้แก่ นายพิชัย ชุณหวชิระ และนายสมชาย พูลสวัสดิ์ ดังนั้นต้องใช้การลงคะแนนเสียงจากสมาชิก ตามข้อบังคับ ข้อที่ 16.3 ให้ใช้วิธีการลงคะแนนเสียงแบบลับ มีสโมสรสมาชิกที่มาใช้สิทธิในวันนี้ทั้งสิ้น 103 เสียง จากที่มีสิทธิ 107 เสียง
ผลปรากฎว่าสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงนั้นเทคะแนนให้กับ นายพิชัย เอาชนะไปได้ 69 ต่อ 34 เสียง นั่งนายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยเป็นสมัยที่ 3 มีวาระ 4 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564-2567
ภายหลังการเลือกตั้ง นายพิชัย กล่าวว่า ต้องขอบคุณสโมสรสมาชิกที่ยังไว้วางใจให้ตนมานั่งตำแหน่งนายกสมาคมฯอีกสมัย และก็ขอบคุณนายสมชาย ที่ทำให้เกิดบรรยากาศความเป็นประชาธิปไตยในสมาคมทำให้ได้เห็นว่าในสมาคมเองก็มีเสียงที่แตกต่างกันออกไป และพร้อมที่จะรับฟังเสียงต่างๆ เหล่านั้น นำมาปรับปรุงแก้ไขสิ่งต่างๆ ในสมาคมฯ ต่อไป แม้ว่าข่าวที่ออกมาก่อนการเลือกตั้งจะดูแปลกๆ แต่ภาพที่ออกมาก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี การทำงานหลังจากนี้ไม่ว่าใครที่จะเข้ามาช่วยงานก็จะเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี อยากให้เห็นถึงความพยายามช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา เราสร้างเด็กรุ่น 19-21 ปีขึ้นมาจำนวนมาก และกำลังจะเป็นรุ่นที่ใช้งานได้ อยากให้รอดูผลงานกันต่อไป
นายพิชัย กล่าวต่อว่า เรื่องคะแนนที่ออกมานั้นถ้าส่วนใหญ่ให้ความไว้วางใจก็พอใจทั้งนั้นต่อให้น้อยกว่านี้ก็ตามเพราะถือว่าเป็นความต้องการของสโมสรสมาชิก ส่วนคนที่จะร่วมงานกันนั้นคงจะต้องไปดูกันอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะฟอร์มทีมใครขึ้นมาบ้าง มีหลายๆ เรื่องที่จะต้องพูดคุยกัน
ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อถึงเป้าหมายในปีหน้า บิ๊กบางจาก กล่าวว่า นอกเหนือจากพวกซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ ก็จะมีพวกชิงแชมป์โลก, ชิงแชมป์เอเชีย ที่ตอนนี้จะวางแผนใหม่ อาจจะส่งนักมวยสลับๆ กันไปทำการแข่งขันเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์บ้าง แต่ไม่ว่าจะเป็นรายการไหนก็จะทำออกมาอย่างเต็มที่
“ในส่วนของโอลิมปิกเกมส์ยังไม่อยากออกตัวอะไรมาก ครั้งที่ผ่านมาไทยโชคไม่ดี ทั้งโควิดที่ทำให้นักชกหน้าใหม่ไม่ได้ควอลิฟาย ต้องวัดจากแรงค์กิ้งนักชกไทยเลยพลาดโอกาส รวมถึงดาวรุ่งความหวังได้รับบาดเจ็บ (ธิติสรรค์ ปั้นโหมด) มั่นใจว่าถ้าไปจะได้มากกว่า 1 เหรียญแน่นอน ส่วนอีก 3 ปีก็จะเตรียมตัวอย่างเต็มที่” นายพิชัย กล่าว
ประมุขเสื้อกล้ามไทย กล่าวปิดท้ายว่า เรื่องของโค้ชและประธานเทคนิคนั้น อาจจะใช้โค้ชที่เป็นคนไทย เนื่องจากว่าจะเข้าใจนิสัยเด็กไทยมากกว่าโค้ชชาวต่างชาติ แต่ว่าในส่วนของประธานพัฒนาเทคนิค อาจจะหาคนที่เป็นชาวต่างชาติเข้ามาทำเพื่อคอยเสริมเติมแต่งเรื่องเทคนิคต่างๆ ให้กับนักชกไทย ที่มองเอาไว้ตอนนี้มีชาวอังกฤษและคิวบา แต่ก็จะต้องรอดูคุณสมบัติต่างๆ ก่อนจะมีการตัดสินใจต่อไป
จันทร์ 20 ธ.ค. 2564 00:00 [ 2,846]
อ่านต่อ