ถึงตอนนี้ “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น อดีตแชมป์โลกชาวไทย และคณะที่นำโดย “เสี่ยฮุย” สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ บอสใหญ่ค่ายนครหลวงโปรโมชั่น ซึ่งเดิมทีกำหนดจะกลับมาถึงไทย 8 ก.พ. แต่ก็ยังไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ ซึ่งมีการเปลี่ยนไฟลท์กลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 9 ก.พ. เวลา 06.30 น.

     ส่วนสาเหตุที่ต้องเลื่อนนั้น บางสื่อระบุว่าตกเครื่อง ต้องซื้อตั๋วใหม่ บางแห่งก็รายงานเพียงแต่มีการเปลี่ยนวัน เอาเป็นว่าสาเหตุอะไรก็ช่าง คือเลื่อนกลับไทย

     ดูอะไรมันช่างสะดุดไปหมด คงไม่ต้องฟื้นฝอยกันตั้งแต่แรกถึงการชวดขึ้นชิงแชมป์โลก และต้องถอนตัว อันเนื่องมาจากการป่วยด้วยอาการไตอักเสบ และต้องถือว่าอักเสบอย่างเฉียบพลัน ด้วยไม่เคยมีใครรู้ หรือมีการเปิดเผยมาก่อนเลยว่า “แหลม” ของเรามีปัญหาในด้านนี้

     และอย่าไปคิดกันให้มากเรื่องว่า เพราะถ้าไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่มีนักมวยคนไหน ไม่มีผู้จัดการคนใด ทำให้เกิดสภาพที่ไม่ขึ้นชก ตรงกันข้าม จะพร้อมหรือไม่พร้อมด้วยสาเหตุใด ยังไงก็ต้องพยายามอย่างสุดกำลังให้ขึ้นชกให้ได้ ผลแพ้ชนะเป็นอีกเรื่องของเป้าหมาย เมื่อมวยโลกเป็นอาชีพ เป็นธุรกิจ มีเม็ดเงินเกี่ยวข้องมหาศาล!

     ถ้าไม่ขึ้นชก ยังไงเสียก็อดได้ผลประโยชน์ และรวมถึงไม่มีอะไรแน่นอนที่จะการันตีได้ เมื่อโอกาสมาถึงปล่อยไปเพื่อหวังโอกาสหน้า แล้วจะได้สมหวัง นั่นแสดงว่าเข็นขึ้นชกไม่ได้จริงๆ

     เรียกว่าไฟต์นี้ของ “เจ้าแหลม” มีดราม่ามากมาย และไม่ใช่แค่นักมวยไทยของเรา กระทั่ง เจสซี โรดริเกซ นักมวยดาวรุ่งชาวอเมริกันเชื้อสายเม็กซิโก วัยเพียง 22 ปี ซึ่งบุญหล่นใส่ถูกดันให้ขึ้นชิงแชมป์โลกแทน “ศรีสะเกษ” อย่างกะทันหัน เรียกว่าเป็นมวยแทนก็ไม่ผิด

     กลายเป็น โรดริเกซ ที่เอาชนะคะแนน คาร์ลอส คูเอดราส นักชกชาวเม็กซิกันวัย 33 ปี คู่ชกของเจ้าแหลมอย่างเป็นเอกฉันท์ชนิดยก 3 ได้นับเสียด้วย โรดริเกซก้าวขึ้นเป็นแชมป์โลกรุ่นซุปเปอร์ฟลายเวท (115 ปอนด์) ของสภามวยโลกไปอย่างไม่คาดคิด ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ไม่มีโอกาสที่จะได้ชิงแชมป์

     ล่าสุดเจ้าแหลมโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลระบุว่า “ผมซ้อมมาเป็นปีแล้วสุดท้ายไม่ได้ต่อย ผมเครียด เสียใจมาก ขอโทษแฟนมวยทุกคนด้วยนะครับที่รอเชียร์ผม ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้นมาแบบนี้ แต่ผมจะสู้ต่อไป ผมจะไม่ท้อ ไม่ถอย วันนี้อาจจะไม่ใช่วันของผม แต่วันข้างหน้าผมจะเอาเข็มขัดกลับเมืองไทยให้ได้ ช่วยติดตามผมด้วยนะครับ จะด่าผมจะว่าผม ผมไม่ว่าหรอกครับ ผมจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง สู้ไปพร้อมผมครับพี่น้องชาวไทยทุกคนขอขอบคุณนะครับ”

     นี่จึงเป็นการจบ “ดราม่า” อย่างสมบูรณ์แบบ ในศึกชิงแชมป์โลกครั้งประวัติศาสตร์ ที่ต้องจดจำกันไว้

     ส่วนอนาคตศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ในวัย 35 ปี จะได้ขึ้นชิงแชมป์โลกกับเจสซี โรดริเกซ หรือไม่ และถ้ามีโอกาสจะเป็นเมื่อไหร่

     รวมถึง “ไตอักเสบ” ที่ว่านั้น จะเป็นเรื่องชั่วครั้งชั่วคราว หรือมีผลต่อเนื่อง ก็เป็นสิ่งที่ต้องรอดู และเป็นเหตุเป็นผลกับโอกาสที่จะเกิดหรือไม่ด้วย

โอกาสใหม่จะมาเร็วแค่ไหน ต้องรอดูกันต่อไป...

“เบี้ยหงาย”