"นรสิงห์" ยอมแบก หวังเงินเพื่อลูกเมีย
Norasing_Lookbanyai1

 

 

     ยอดมวย "สยามกีฬา อวอร์ดส์" คนแรก นรสิงห์ ลูกบ้านใหญ่ ยังไม่หมดไฟตัดสินใจคัมแบ็กหวนคืนสู่เวทีอีกครั้งในวัย 33 ปี พร้อมแฉเหตุที่ยอมเสียเปรียบในการปะทะกับ เกนจิ อูเมโน่ ในวันที่ 28 ก.พ.ก็เนื่องจากเงินตัวเดียว นอกจากนี้แล้วทางเจ้าของยิมฯ ก็ยังเชื่อมั่นในตัวเองว่าสู้ได้ จึงยอมขึ้นสังเวียนในรอบ 4 ปี เผยทุกวันนี้ปักหลักเป็นครูมวยไทยที่นาโงย่า เพื่อหาเงินดูแลครอบครัว โดยชีวิตดิ้นรนต่อสู้มาโดยตลอด

     โดยเมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางด้านผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยัง นรสิงห์ ลูกบ้านใหญ่ ดีกรียอดมวย "สยามกีฬา อวอร์ดส์" คนแรกเกี่ยวกับกรณีที่มีข่าวว่า จะขึ้นสังเวียนปะทะกับ เกนจิ อูเมโน่ นักชกระดับซูเปอร์สตาร์ขวัญใจชาวปลาดิบและเป็นคู่ปรับเก่าของ "คนไม่ยอมคน" เสกสรร อ.ขวัญเมือง, ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ ซึ่งครั้งนี้ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์มากพอสมควร หลายคนไม่เห็นด้วยที่นรสิงห์ อดีตแชมป์รุ่น 112 ปอนด์ เข็มขัด 5 เส้น จะขึ้นวัดกับเกนจิ เนื่องจากเห็นว่า รูปร่าง แรงปะทะเป็นรองมาก โอกาสเพลี่ยงพล้ำมีสูง

     โดยเรื่องนี้ นรสิงห์ ลูกบ้านใหญ่ นักชกวัย 33 ปีจาก จ.ตรัง ได้เปิดเผยข้ามประเทศว่าตนเองได้รับการติดต่อมาสอนมวยที่ประเทศญี่ปุ่นนานกว่า 4 เดือนแล้ว โดยปักหลักสอนอยู่ที่ยิมฯ โออิชิ ในเมืองนาโงย่า มีรายได้ต่อเดือนตก 6-7 หมื่นบาท โดยชีวิตต้องดิ้นรนต่อสู้มาโดยตลอดเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวที่อยู่ในเมืองไทย สำหรับการที่ตัดสินใจชกกับ เกนจิ อูเมโน่ ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากเงินตัวเดียว โดยเขาให้ค่าเหนื่อยราว 1.5 แสนบาท ที่ผ่านมาก็มีคนสอบถามกันมากถึงเรื่องนี้ ซึ่งตนก็ชี้แจงเหตุผลไปตามความเป็นจริง อีกทั้งก่อนหน้านี้ทางไกโจเจ้าของยิมฯ ก็มาบอกกับตนว่าสู้ได้ ตนจึงเพิ่มความมั่นใจ และตอบตกลงไปดังกล่าว

     "ทราบดีครับว่าเสียเปรียบทุกอย่าง แต่ที่ผมยอมชกกับเกนจิ ก็เพราะเงินครับ ต่อไฟต์เขาให้ 1.5 แสนบาทซึ่งถือว่าเยอะนะสำหรับผม จึงตอบตกลงไป และทางเจ้าของยิมฯ เขาก็มั่นใจในตัวผมด้วย บอกว่าสู้ได้ซึ่งเกมชกในครั้งนี้จะชกในพิกัด 61 กก. ในรูปแบบคิกบ็อกซิ่ง กำหนด 3 ยก ใช้แข้งใช้หมัดได้ แต่ใช้ศอกใช้เข่าไม่ได้ ซึ่งผมก็แอบหวังลึกๆ นะว่าจะรอสวน ขอจังๆ หมัดเดียวรับรองว่ามีเฮแน่นอน ถ้าหากผมล้มเขาได้ชีวิตเปลี่ยนแน่นอน ซึ่งก็จะพยายามและตั้งใจอย่างเต็มที่ครับ ที่ผ่านมาก็เก็บตัวฟิตซ้อมมาโดยตลอด โดยทุกวันนี้ผมทำงานเป็นครูมวยอยู่ในยิมฯ โออิชิ ในเมืองนาโงย่า ซึ่งมีผู้คนมาสมัครเรียนมวยที่นี่มากกว่า 400 คน แต่ละวันต้องจับเป้าสอน 60-70 คน มีครูมวยช่วยกัน 3 คนรายได้ต่อเดือน 6-7 หมื่นบาท ที่พักฟรี ซึ่งยอมเจ็บยอมเหนื่อยเพื่อครอบครัวครับ โดยจะทำงานส่งเงินไปให้ลูกเมียใช้ตลอดทุกเดือน จริงๆ แล้วรายการที่ผมชกในวันที่ 28 ก.พ.นี้ เดิมทีจัดเป็นรายการใหญ่เลยนะมี หนึ่งล้านเล็ก, เพชรพนมรุ้ง จิตรเมืองนนท์ รวมทั้ง พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยฯ ร่วมชกด้วย แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้ต้องปิดประเทศ นักมวยทั้ง 3 คนก็เลยไม่ได้มา เลยมีเพียงแค่ผมที่อาศัยอยู่ที่นี่มากว่า 4 เดือนแล้วที่ได้ชก โดยการแข่งขันจะมีขึ้นที่โยโกฮาม่าครับ ซึ่งก็ช่วยเป็นกำลังใจให้กับผมด้วยนะครับ ถ้าผลงานดีจะลุยต่อแน่นอนเพื่อเก็บเงินไว้เป็นทุนก่อนกลับมาใช้ชีวิตในบั้นปลายที่เมืองไทย" นรสิงห์ กล่าว

Tags #สยามกีฬา อวอร์ดส์ #นรสิงห์ ลูกบ้านใหญ่
Mon Feb, 8 2021

Same News

"นรสิงห์" ยอมแบก หวังเงินเพื่อลูกเมีย
"นรสิงห์" ยอมแบก หวังเงินเพื่อลูกเมีย

Mon Feb, 8 2021 [ 1,590]

Read more