"บังมาด" สามารถ มะลูลีม นายกสมาคมกีฬามวยไทยนานาชาติ ดีใจอดีตนักมวยไทยได้มาเจอกัน ลั่นคำพร้อมจัดทุกปี ขณะที่ กรุงเทพมหานครเตรียมผลักดันมวยไทยเข้าหลักสูตรการเรียนของโรงเรียนกีฬา

     วันนี้ 24 มีนาคม 2565 ที่ ลานคนเมือง เสาชิงช้า ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ช่วงเวลา.15.00น. - 19.00 น. ได้มีการจัดงานเพื่อคนมวย ภายใต้ชื่องานว่า "กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงมวยไทยโลก" เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อคนมวย และเพื่อเป็นการอนุรักษ์ศิลปะมวยไทยซึ่งเป็นศิลปะที่ดีงามของชาติไทยเพื่อเป็นการเผยแพร่ให้คนทั่วโลกได้เห็น ภายในงานจัดได้ยิ่งใหญ่มาก เป็นการรวมตัวพบปะกันของคนวงการมวยยอดนักมวยเก่งทั้งรุ่นเก่าๆ และรุ่นปัจจุบันเป็นจำนวนมาก  ภายใต้การดูแลการจัดงานของ "บังมาด" นายสามารถ มะลูลีม นายกสมาคมกีฬามวยไทยนานาชาติ มี นายสมบูรณ์ หอมนาน ผอ.สำนักวัฒนธรรมกีฬาแลัการท่องเที่ยว เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรบุคคลต้นแบบด้านมวยไทย และเสื้อสามารถแก่นักมวยทั้งรุ่นอดีตและปัจจุบันร่วม 70 ชีวิต ซึ่งภายในงานมีการแสดงศิลปะมวยไทย และการไหว้ครูมวยจาก นักมวยรุ่นเก๋า "สกัด พรทวี" พร้อมการแสดงศิลปะมวยไทยของนักมวยหน้องแพพลอย และน้องๆนักชกจิ๋วจากสมาคมกีฬาไทย

      "บังมาด" สามารถ มะลูลีม เปิดเผย กับ SMM มวยไทยรายวัน ถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ว่า การจัดงานครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งประวัติศาสตร์ จุดประสงค์หลักก็เพื่อต้องการให้  "กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของมวยไทยโลก" ต้องการให้ทุกคนได้มาเห็น เพราะอนาคตไม่แน่นอนอาจจะไม่ได้มีโอกาสดีๆที่จะได้มาเจอกัน ภูมิใจมากที่นักมวยที่มีผลงานระดับแชมป์ อนุรักษ์มวยไทยได้มาพบปะเจอกัน

      "ผมจะทำโครงการดีๆแบบนี้ต่อไปทุกปีและจะทำให้มวยไทยมีชื่อเสียงต่อไปในอนาคต" บังมาด สามารถ มะลูลีม กล่าว และว่า "อยากให้คนวงการมวยมีความรักสามัคคีกัน และช่วยกันอนุรักษ์ศิลปะมวยต่อไป"

     "ดีเซลน้อย ช.ธนะสุกาญจน์" เจ้าของฉายา "ขุนเข่าเสาโทรเลข" อดีตยอดนักมวยรุ่นเก่า กล่าวว่า รู้สึกดีใจมาก ที่ท่าน สามารถ มะลูลีม ให้เกียรติอดีตนักมวยรุ่นเก่าๆ  จัดโครงการนี้ขึ้นมามีการมอบเกียรติบัตรให้

     "ต้องยอมรับว่านักมวยสมัยรุ่นเก่ากับนักมวยสมัยปัจจุบัน มีความแตกต่างกันมากเพราะโลกเจริญแล้วนักมวยมีความเก่งมากขึ้นและไม่อยากให้นักมวยยึดติดกับคำว่า แพ้ ชนะ เพราะมวยต้องมี แพ้ ชนะ สิ่งที่ภูมิใจมากคือการที่ยังใช้คำว่า "มวยไทย" ดีเซลน้อย กล่าว

     ทางด้าน พายัพ เปรมชัย อดีตยอดนักมวยจอมฝีมือ กล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีใจและรู้สึกน่าชื่นชมนักมวยรุ่นเก่าๆได้มีโอกาสมาเจอกัน ได้มาอยู่ร่วมในวงการมวย ได้มาช่วยกันอนุรักษ์ศิลปะมวยไทย 

     ทางด้าน ผุดผาดน้อย วรวุฒิ "ไอ้หมูแข้งทอง" อดีตนักมวยชื่อ กล่าวว่าดีใจที่มีโครงการดีๆแบบนี้ มีการเชิดชูอดีตนักมวยไทยที่สร้างชื่อเสียงอนุรักษ์มวยไทย และขอให้มีโครงการดีๆแบบนร้ตลิดไปพร้อมฝากมวยไทยให้คนรุ่นหลังได้อนุรักษ์ไว้

     ด้าน นายสมบูรณ์ หอมนาน ผอ.สำนักวัฒนธรรมกฬา และการท่องเที่ยวกล่าวว่า รู้สึกดีใจมาก ที่ทางนักมวยผู้ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติได้มาพบปะรวมตัวกันในวันนี้มวยไทยได้เข้าสู่ระดับมวยโลกแล้วมวยไทยก็เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ ในฐานะที่กรุงเทพมหานครโดยสำนักวัฒนธรรมการกีฬาและการท่องเที่ยวก็เป็นผู้ดูแลในเรื่องกีฬาด้วย ก็ได้มีการจัดกิจกรรมนี้ขึ้น และมีการส่งเสริมให้มวยไทยเข้าสู่หลักสูตรการเรียนการสอนของนักเรียนกีฬาขึ้นที่โรงเรียนในกรุงเทพมหานครตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงระดับมัธยมศึกษาหลักสูตรศิลปะแม่ไม้มวยไทยในเร็วๆ นี้