ชื่อของ “อัยด้า ลูกทรายกองดิน” ปรากฏตามหน้าสื่อในวงกว้าง ภายหลังจากเธอขึ้นสังเวียนเป็นคู่แรก และจารึกประวัติศาสตร์ให้กับตัวเอง ในฐานะ “นักมวยไทยหญิง” คนแรกที่คว้าชัยชนะบนเวทีมวยราชดำเนินในรอบ 77 ปี ช่วงแอร์ไทม์การถ่ายทอดสดจบลงไปพร้อมกับชัยชนะของ “อัยด้า” หากแต่ในค่ำคืนเดียวกัน ของวันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565  ไม่ได้เพียงแค่สาวไทยที่ชื่อ “อัยด้า” เท่านั้นที่ได้มาล่าฝันในสนามมวยมาตรฐานแห่งแรกของประเทศไทย 

ยังมีนักสู้หญิงคนหนึ่งที่เอาชนะคู่ชกในวันเดียวกัน เวทีเดียวกัน แม้เกมการชกของเธอ อาจไม่ได้อยู่ในจอทีวี ทว่าด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลาถ่ายทอดสด เพราะเธอขึ้นเวทีเป็นคู่สุดท้าย จึงทำให้ ผลการแข่งขัน และเรื่องราวของเธออาจไม่ถูกปรากฏตามหน้าสื่อก็ตาม ทั้งที่ความพยายามกว่าจะมาถึงวันนี้ของเธอก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่า เธอคนนั้นชื่อว่า “เดอะสตาร์ ศิษย์ ช.” และนี่คือเรื่องราวที่ Muay Thai Stand ขอหยิบยกนำมาเขียนให้ทุกคนได้รู้จักเธอมากยิ่งขึ้น 

เดอะสตาร์ มีชื่อจริงว่า ราณี กลิ่นราตรี ชื่อเล่น ดาว เกิดวันที่ 6 พฤศจิกายน 2542 ที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นลูกคนโตของ นายราเชนทร์ (เพชรดำ ศิษย์ อ.) กับ นางนีรนุช มีน้องชายชกมวยชื่อ ซุปเปอร์บอล ศิษย์ยอดธง เป็นดาวรุ่งฝีมือดีของศึกวันทรงชัย เธอเริ่มหัดมวยเมื่ออายุ 10 ขวบ โดยขอให้พ่อพาไปฝึกที่ค่ายมวย ส.กลิ่นมี ของ ทัพยา ศิษย์ อ. มีน้า-หลานสามประสานช่วยกันสอนคือ ทัพยา-สุดสาคร-สินสมุทร  ก่อนได้ชกไฟต์แรกด้วยความบังเอิญ หลังตามไปเชียร์เพื่อนนักมวยชายขึ้นชกที่เวทีเทพประสิทธิ์  ในรายการมีเด็กหญิงต่างชาติชื่อ โดมินิก แฟร์เท็กซ์ ขึ้นชกกับ ดวงเพชร ศิษย์ปู่เตี้ย แต่ทีมงานแฟร์เท็กซ์เห็นว่าเด็กไทยตัวใหญ่เกินไป จึงขอเปลี่ยนตัว จังหวะนั้นทีมงานหันไปเห็น เดอะสตาร์ โดยบังเอิญ พอทราบว่าเธอหัดมวยมา 2-3 เดือน บวกกับรูปร่างได้กัน เธอจึงถูกคะยั้นคะยอให้ขึ้นชก โดยมีค่าตัวแทนให้ 1,200 บาท พ่อเชนของเธอจึงตั้งชื่อให้เดี๋ยวนั้นว่า เดอะสตาร์ ส.กลิ่นมี ตามชื่อเล่นของเธอนั่นเอง ผลการชกจบลงด้วยชัยชนะของ เดอะสตาร์ อย่างสนุกสุดพลิกล็กค เพราะคู่ชกต่างชาติของเธอชกมวยมาร่วม 10 ไฟต์ 

หลังจากนั้นเธอขึ้นชกประจำที่เวทีเทพประสิทธิ์และสังเวียนละแวกภาคตะวันออก จนได้เข็มขัดมาคาดเอวหลายเส้น ในเวลาต่อมา พ่อของเธอตั้งค่ายมวย จึงเปลี่ยนมาใช้ เดอะสตาร์ ศิษย์ ช. มาจนกระทั่งปัจจุบัน 13 ปีบนสังเวียนมวย ดาว กลายเป็น “เดอะสตาร์” ดาวดวงใหม่ที่แฟนมวยทั่วภาคตะวันออกทราบดีว่า เธอเก่งจนหาตัวจับยาก สถิติการชกกว่า 90 ไฟต์ ดาวแพ้เพียงแค่ 20 ครั้ง การันตีความสามารถด้วยเข็มขัดแชมป์โลกมวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง 2 เส้น คือ แชมป์สหพันธ์มวยไทยอาชีพโลก (WPMF) รุ่น 45 กก. ชนะคะแนน ซายะ อิโตะ และล่าสุดเธอ บินไปคว้าแชมป์โลก S1 Ladies รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต NJKF (New Japan Kickboxing Federation) ชนะคะแนน รุ่ย คุรามิตสึมวยไทยยิม (Rui Kuramitsu Muay Thai Gym) สาวฮ่องกง ที่เวทีโคราคุเอ็น ฮอลล์ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา 

“หลังจากหนูได้แชมป์ที่ประเทศญี่ปุ่น ทางทีมงาน GSV เขาสนใจในตัวหนู จึงโทรมาทาบทาม หนูตัดสินใจอย่างไม่ลังเลเลยค่ะ เพราะการได้ขึ้นชกที่เวทีราชดำเนิน ถือเป็นเกียรติประวัติที่น่าภูมิใจไม่แพ้การได้เข็มขัดแชมป์ เวทีราชดำเนินมีประวัติศาสตร์มายาวนาน หนูไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้ขึ้นชกที่นี่ เพราะก่อนหน้านี้เขาห้ามผู้หญิงขึ้นเวที ต้องขอบคุณผู้บริหารเวทีและผู้บริหาร GSV ที่ให้โอกาสผู้หญิง และทำให้นักมวยหญิงมีสิทธิเท่าเทียมนักมวยชาย” 

เดอะสตาร์ ตอบรับข้อเสนอเข้าร่วมแข่งขันมวยรอบ RWS - Rajadamnern World Series อย่างไม่ลังเล เพราะนี่เปรียบดั่งฝันที่เป็นจริง ที่สุภาพสตรีอย่างเธอจะได้มาชกที่เวทีมวยราชดำเนิน ร่วมกับเพื่อนนักชกอีก 7 ราย

เดอะสตาร์ ประเดิมไฟต์แรกเจอกับ “มิลากรอส โลเปส” นักมวยหญิงพันธุ์แกร่งจาก อาร์เจนตินา น่าเสียดายที่ตามโปรแกรม เธอกับโลเปส ถูกวางคิวเป็นคู่สุดท้ายของรายการ ทำให้คู่ก่อนหน้าเธอระหว่าง อัยด้า ลูกทรายกองดิน กับ ซาห์ร่า วีนั่มมวยไทย กลายเป็นนักมวยหญิงคู่แรกที่ได้ชกบนเวทีมวยราชดำเนิน แต่ถึงจะไม่ได้จารึกประวัติศาสตร์หน้านี้ “เดอะสตาร์” ก็ก้าวขึ้นไปบนสังเวียนอันทรงเกียรติ และแสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่ จนเอาชนะคะแนนเหนือ โลเปส ไปได้ 30-27 แต้ม เป็นอีกหนึ่งนักชกหญิงที่เก็บชัยชนะได้ ในวันแรกที่สนามอนุญาตให้ “สุภาพสตรี” ขึ้นชกได้

“แม้ว่าหนูจะไม่ใช่นักมวยหญิงคนแรกที่ขึ้นชก และไม่ใช่นักมวยหญิงคนแรกที่คว้าชัยชนะที่เวทีราชดำเนิน แต่หนูและเพื่อนๆอีก 3 คน ก็ถือเป็นนักมวยหญิงกลุ่มแรกที่ได้ขึ้นชกที่เวทีมาตรฐานอันดับ 1 ของเมืองไทย นั่นคือสิ่งที่หนูเชื่อทั้งตัวอัยด้า, ซาห์ร่า, มิลากรอส รวมถึงตัวหนูเอง รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้นักมวยหญิงกลุ่มแรกที่ถูกเลือกขึ้นแข่งขันในวันนั้น ถึงคู่ของหนู อาจไม่ได้ชกออกทีวี แต่ถึงอย่างไรหนูก็ดีใจที่วันนี้ วงการมวยไทยและสนามมวยเวทีราชดำเนินได้เปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงขึ้นมาแสดงความสามารถ หนทางในมวยรอบครั้งนี้ยังมียาวไกล อะไรก็เกิดขึ้น ได้ แต่หนูจะทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ เหมือนอย่างที่ตัวเองต่อสู้มาตลอด กว่ามาถึงจุดนี้ค่ะ”

เรื่อง ทัศนะเทพ รัตนจันทา

ภาพ ปริญญา คงปันนา