คนมวยน้ำดี เจี๊ยบ รามอินทรา จัดทำโครงการ คนมวยไม่ทิ้งกัน แบ่งปันธารน้ำใจช่วยเหลือ ค่ายมวย ภูธร หลังจากประสบปัญหากับการแพร่ระบาดของโควิด-19 และยังทำเสื้อขายนำเงินรายได้ไปช่วยเหลือค่ายมวยที่เดือดร้อนอีกด้วย ทั้งนี้ ยังฝากถึงพี่ๆ เพื่อนๆ คนวงการมวย ท่านใดอยากจะร่วมต่อลมหายใจให้กับค่ายมวยต่างจังหวัดอีก ให้แจ้งความประสงค์เพิ่มเติมมาได้

     หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส หรือโควิด-19 ซึ่งมีความรุนแรงกว่าในรอบแรกหลายเท่าตัว จนเป็นเหตุให้เวทีมวยและสนามมวยต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด (ทั้งภูธรและนครบาล) มีอันต้องงดทำการแข่งขัน ทำให้คนในวงการมวยต่างก็มีความเดือดร้อนเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับนักมวยและค่ายมวยที่อยู่ต่างจังหวัดซึ่งเป็นค่ายมวยเล็กๆ ไม่มีทุนทรัพย์มากพอ เมื่อเจอกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้นักมวยภายในค่ายไม่มีรายการ ไม่มีรายได้ ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่ารายได้ของค่ายมวยและตัวนักมวยมาจากการขึ้นชกมวยเท่านั้น และซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันนี้ทิศทางของภาครัฐ ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดการล็อกดาวน์ของเวทีมวย อีกทั้งยังไม่มีกำหนดการการผ่อนปรนให้มวยกลับมาจัดในระบบปิด แต่ทว่าวงการมวยไมสิ้นคนดี อย่าง เจี๊ยบ รามอินทรา ที่คิดโครงการคนมวยไม่ทิ้งกัน ช่วยเหลือค่ายมวยต่างจังหวัด (ภูธร) ที่ประสบปัญหาและมีผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการมอบเงินส่วนตัวจำนวนเงิน 100,000 บาท ร่วมกับทางผู้สนับสนุน มอบให้ค่ายมวยตามต่างจังหวัดที่เดือดร้อนค่ายละ 3,000 บาทและตอนนี้ก็มอบเงินช่วยเหลือแก่ค่ายมวย 2 ค่า่ยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กับค่ายมวย แจ๊คกี้ยิม ที่จ.สกลนคร ที่ทำมวย เพชรแสนคม ศิษย์นายกต่าง ให้เฉิดฉายในวงการมวยของเรา อีกค่าย ก็คือ ค่ายศิษย์สั่งปราบ ที่จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งคาดว่าเงินจำนวนที่มีอยู่น่าจะมอบได้ถึง 33 ค่าย ในช่วงที่มวยยังไม่สามารถกลับมาทำการแข่งขันได้ อาจจะไม่ใช่จำนวนเงินมากมาย แต่สำหรับค่ายมวยเล็กๆ ตามต่างจังหวัดมันมีความหมายเป็นอย่างยิ่ง ได้ช่วยต่อลมหายใจให้กับพวกเขาเหล่านั้น ถือได้ว่าเป็นคนมวยรุ่นใหม่ที่มีความคิดและทัศนคติที่ดีต่อพี่น้องวงการมวยด้วยกัน

 ล่าสุด เจี๊ยบ รามอินทรา ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวสยามกีฬา-มวยสยามว่า จริงๆแล้วตนนั้น ก่อนหน้านี้ก็ช่วยเหลือนักมวยน้องๆ และค่ายมวยตามต่างจังหวัดมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังทำได้ไม่เต็มที่เพราะทำตามกำลังที่ตนพอจะช่วยได้ แต่พอมาเจอกับสถานการณ์โควิด-19 ระบาดรอบที่สอง ซึ่งมันมีความรุนแรงและกินเวลายาวนานพอสมควรในการปิดสนามมวย ทำให้ค่ายมวยและนักมวยตามต่างจังหวัดที่เขาไม่มีกำลังเงินมากพอในช่วงสถานการณ์นี้ ตนเลยอยากที่จะช่วยเหลือแบบจริงๆ จังๆ คือผมคิดว่าผมก็เกิดจากวงการมวยอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ผมก็ยินดีและเต็มใจครับ ซึ่งความคิดที่จะช่วยเหลือค่ายมวยก็มีมานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาส ก็เลยถือโอกาสช่วงโควิดระบาด อยากจะทำให้มันเต็มที่เพื่อพี่น้องคนวงการมวยด้วยกัน อีกอย่างผมก็พอที่จะมีผู้สนับสนุนผมมาด้วย ผมออกเงินส่วนตัว 65,000 บาท อีก 35,000 บาท ก็เป็นทางผู้สนับสนุนของผมครับ มันจึงทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้นมาได้ครับ เจี๊ยบ รามอินทรา กล่าวต่ออีกว่า จริงๆ แล้วผมก็อยากให้มวยกลับมาเร็วๆ นะ เพราะว่านักมวยและค่ายมวยเดือดร้อนมากจริงๆ อยากให้พวกเขามีรายได้ แต่ก็คำนึงถึงภาพรวมด้วยครับ หากแย่ขึ้นมาอีกคนมวยก็จะอยู่กันลำบาก และตอนนี้ผมก็จัดทำเสื้อขายเพื่อที่จะนำเงินรายได้ตรงนี้ไปเพิ่มกับจำนวนเงินที่มีอยู่แล้วไปแจกจ่ายให้กับค่ายมวยที่เดือดร้อนอย่างทั่วถึง ซึ่งก็ฝากผ่านสื่อหากพี่ๆ เพื่อนๆ ท่่านใดอยากจะสนับสนุนค่ายมวยตามต่างจังหวัดที่เดือดร้อนก็สามารถติดต่อมายังผมได้เลยครับ ยังไงผมก็ขอขอบคุณแทนค่ายมวยต่างจังหวัด ไว้ล่วงหน้าเลยครับที่ได้ช่วยยเหลือพวกเขา ลงมือทำ คือ คำตอบ เจี๊ยบ รามอินทรา กล่าวปิดท้าย

     ล่าสุด เจี๊ยบ รามอินทรา ได้แจ้งยอดเงินบริจากเพิ่มเติมจาก มีแน่ ศิษย๋เส่ย อีก 5,000 บาท และสกล มวยตู้ เพิ่มอีก 2,000 ตอนนี้ก็จะได้ยอดเงินช่วยเหลือค่ายมวยเพิ่มเป็น 35 ค่าย จากเดิมช่วยได้ 33 ค่าย