"The Ironman" รถถัง จิตรเมืองนนท์ เผยตั้งแต่เริ่มต้นชกมวยไทยมาจนถึงวันนี้สามารถกอบโกยเงินโดยมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท โดยภูมิใจที่สามารถเลี้ยงดูพ่อแม่พี่น้องและสร้างบ้านให้กันทั้งครอบครัว ซึ่งปีนี้ไม่คาดหวังว่าจะทำรายได้ได้เยอะเพราะจากสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ ที่ทำวงการมวยซบเซาหนักไม่มีรายการแข่งจึงทำรายได้หดไปเยอะ

     ถือว่าประสบความสำเร็จมาระดับนึงแล้วทั้งชื่อเสียงและเงินทองสำหรับนักชกซูเปอร์สตาร์จอมบู๊ดีเดือดขวัญใจชาวไทยอย่าง "The Ironman" รถถัง จิตรเมืองนนท์ ด้วยสไตล์การชกที่แข็งแรงรวดเร็วและดุดันเดินบู๊ไม่มีหมดเอาชนะคู่ต่อสู้มานับไม่ถ้วน ทำให้รถถัง นักชกในวัย 23 ปีรายนี้จากจ.พัทลุง ก้าวมาเป็นนักชกระดับแนวหน้าของวงการมวยไทยได้อย่างรวดเร็ว แต่กว่าจะประสบความสำเร็จขนาดนี้ได้รถถังไม่ได้มีชีวิตที่ราบรื่นมาตั้งแต่เกิด พ่อแม่มีลูกทั้งหมด 10 คน ที่ต้องเลี้ยงดู ซึ่งครอบครัวของรถถังนั้นยากจนข้นแค้นเป็นอย่างมากแต่ด้วยความจนนี้เองทำให้รถถังต้องดิ้นรนเพื่อชีวิตที่ดีกว่าเก่าด้วยการชกมวยไทยเพื่อเลี้ยงดูปากท้องคนในครอบครัว และด้วยความที่ฝีมือแพรวพราวล้มคู่ต่อสู้เก่งๆ มามากทำให้รถถังมีชื่อเสียงในภาคใต้ไม่นานนักก็ย้ายไปอยู่กับค่ายจิตรเมืองนนท์อันเลื่องชื่อ อยู่ค่ายจิตรเมืองนนท์รถถังขยันฟิตซ้อมและทุ่มเทเต็มเวลา จึงประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นด้วยสถิติการชกชนะกว่า 250 ครั้งตั้งแต่อายุไม่ถึง 21 ปี ทั้งยังคว้าแชมป์จากเวทีมวยสยามอ้อมน้อยถึงสองสมัย และในเดือนสิงหาคม 2562 รถถัง ได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดของวงการมวยระดับโลก ด้วยการเอาชนะ "โจนาธาน แฮ็กเกอร์ดี" และขึ้นครองบัลลังก์แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ได้สำเร็จ

     โดยล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ รถถัง จิตรเมืองนนท์ ถึงความพร้อมในการสู้ศึกในปีนี้ โดยรถถังได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า "ตั้งแต่อดีตครอบครัวของผมยากจนมากครับ ผมมีพี่น้องมากกว่า 10 คน มีบ้านเล็กๆ เก่าๆ อยู่ที่ จ.พัทลุง จนทุกวันนี้ผมมีทุกอย่างเพราะผมสู้ชีวิตมาตลอดด้วยการชกมวยทำให้ผมประสบความสำเร็จได้ โดยตั้งแต่เริ่มชกมวยไทยมาจนถึงทุกวันนี้ผมเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากมวยล้วนๆ มีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งถ้าผมไม่ได้ชกมวยผมก็ไม่รู้ว่าผมจะไปทำอะไรเหมือนกัน ซึ่งจากรายได้ทั้งหมดที่ผมเก็บหอมรอบริบนั้น ผมเอาไปสร้างบ้านหลังใหม่ให้พ่อ 1 หลัง ปลูกให้แม่อีก 1 หลัง พี่น้องให้เงินให้ทองกันทุกคน ใครอยากเปิดร้านลงทุนให้ จากคนจนๆ คนนึงทำได้ขนาดนี้ทำให้พ่อแม่สุขสบาย ผมดีใจและภูมิใจมากที่ผมเลี้ยงดูคนในครอบครัวให้มีชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับปีนี้ก็ไม่คิดอะไรมากเรื่องรายได้ครับเพราะจากผลกระทบของโควิด-19 เงินรายได้ในปีนี้คงจะไม่เท่าเก่าแน่นอน ยังไงก็ขอบคุณแฟนมวยทุกคนรวมทั้งน้าสมจิตร แว่นแก้ว ซ้อเอ๋และเพื่อนพ้องน้องพี่ทุกคนในค่ายจิตรเมืองนนท์ที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จขนาดนี้ โดยผมจะมีคิวไปชกที่สิงคโปร์ ศึกวันแชมเปี้ยนชิพ ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ฝากแฟนมวยเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ ผมจะทำเต็มที่ไม่ให้แฟนมวยต้องผิดหวังครับ" รถถังเผยปิดท้าย